ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ yai6000 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
การใช้รถเป็นช่วงเวลาที่รีบเร่งแต่กลับปัญหาสร้างความน่าหงุดหงิดใจให้กับเจ้าของรถโดยไม่เลือกเวลาหรือสถานที่ โดยคราวนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ Isuzu ที่ใช้เกียร์ออโต้อายุเกิน 5 ปีขึ้นไป
ซึ่งอาการจะมีเข้าเกียร์ไม่ได้ เป็นผลมาจากสายโยงเกียร์ออโต้หลุด วันนี้เราจึงนำความรู้และการซ่อมแซมชนิดที่ว่าทั้งประหยัดและยืดอายุสายโยงเกียร์ได้ยาวนานจากคุณ yai6000 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝากครับ
D.I.Y. แก้ไขปัญหา รถยนต์ Isuzu สายโยงเกียร์ออโต้หลุดออก โดยคุณ yai6000 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ต้องขอขอบคุณ ไอเดียแนวทางแก้ไขปัญหาจากน้า gang122 เว็บ MU-7 Club ด้วยนะครับ คือในตอนแรกเลยผมใช้วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น โดยใช้ลวดมัดเอาไว้เพื่อให้สามารถใช้งานได้ชั่วคราวไปก่อนแล้วรอทำการเปลี่ยนอะไหล่
แต่พอน้า gang122 เว็บ MU-7 Club ได้ทำการนำเสนออีกทางเลือกนึง คือ ทำการเจาะรูใส่สลักล็อค ใช้งานได้แบบถาวรจึงเป็นแนวทางที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก ไม่เกิน 100 บาท เมื่อเทียบกับที่ต้องไปเบิกอะไหล่ใหม่ทั้งเส้นราคา 1,700 บาท
รูปแรกถ่ายจากรถยนต์ Isuzu เกียร์ออโต้ รุ่นปี 2006 แบบเกียร์ JR405E (เกียร์ออโต้ ไม่มีจมูกที่ฝากระโปรงรถ) ตำแหน่งสายโยงเกียร์ออโต้ จะอยู่ทางคนขับด้านล่าง ปัญหาสายโยงเกียร์ออโต้หลุดออกมาจากสลัก แก้ไขโดยทำการมัดลวดเอาไว้พอหลวม ๆ อย่าแน่นมาก เพราะว่าถ้ารัดลวดจนแน่น สายโยงเกียร์ออโต้จะไม่สามารถขยับได้เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาแบบชั่วคราว เพื่อให้สามารถขับรถไปซ่อมที่อื่นได้ ดีกว่าต้องมาเสียค่ายกลากรถ
รูปที่สองถ่ายจากรถยนต์ Isuzu เกียร์ออโต้ รุ่นปี 2008 แบบเกียร์ AW30-40LE (เกียร์ออโต้ มีจมูกที่ฝากระโปรงรถ) ตำแหน่งสายโยงเกียร์ออโต้ จะอยู่ทางคนนั่งข้างคนขับด้านล่าง ปัญหาสายโยงเกียร์ออโต้หลุดออกมาจากสลักแก้ไขโดยทำการถอดออกมา เจาะรูเพื่อร้อยสลักล็อค ใช้งานได้แบบถาวรราคาอะไหล่ไม่เกิน 100 บาท
ถ้าอย่างนั้นเรามาทำการตรวจสอบกันดูดีกว่าว่าแบบไหนที่เรียก สายโยงเกียร์ออโต้ปกติ แบบไหนสมควรต้องแก้ไขซ่อมแซมก่อนที่จะไปงานงอกระหว่างทาง โดยปกติแล้วตำแหน่งเกียร์ P จะเป็นตำแหน่งที่สายโยงเกียร์ออโต้มีระยะหย่อนมากที่สุด ถ้ามันจะหลุดก็มักจะหลุดที่ตำแหน่งนี้ เช่น กรณีจอดรถ พอขึ้นรถมาสตาร์ทรถก็เลื่อนเกียร์ออโต้ไม่ได้แล้วเพราะว่าสายโยงเกียร์ออโต้หลุด และมักจะพบว่าอายุรถตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย ถ้าเรารู้ตัวก่อนก็รีบทำการแก้ไข ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย
รูปด้านล่าง แสดงให้เห็นว่าสายโยงเกียร์ออโต้ อยู่ในตำแหน่งปกติ ไม่มีการเลื่อนหลุดออกมา
รูปด้านล่าง แสดงให้เห็นลักษณะการหลุดออกมาจากสลัก ของสายโยงเกียร์ออโต้ หากไม่รู้วิธีการแก้ไขก็เตรียมตังค์เอาไว้ได้เลย อันดับแรก ค่ายก-ลากเคลื่อนย้ายรถไปที่อู่หรือศูนย์บริการ อับดับสอง ค่าอะไหล่และค่าแรงในการเปลี่ยนอะไหล่ เพื่อให้รถยนต์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ อีกครั้ง
เรามาดูวิธีการแก้ไขแบบถาวร ไม่พึ่งพาอะไหล่จากศูนย์บริการ เนื่องจากราคาอะไหล่ 1,700 บาท ถ้าเราสามารถทำเองได้ ต้นทุนในการทำไม่เกิน 100 บาท ถ้างั้นตามมาดูกันเลย ทำการถอดขาเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ออโต้ออกมาโดยใช้ประแจ และลูกบล็อค 6 เหลี่ยม เบอร์ 12 ทำการถอดออกมา
ทำการเตรียมอุปกรณ์ ดังรูป มีแหวนรองขนาดสวมพอดีสลัก ปริ้นล็อค และดอกสว่านเจาะเหล็ก ขนาด 1/8
ลองเอามาวางทาบ เพื่อหาแนวในการเจาะรู ร้อยปริ้นล็อค ต้องออกมาให้ได้ตามแบบ ประมาณนี้
ทำการจัดเตรียมเครื่องมือ สำหรับการเจาะรู ดังรูป ถ้ามีปากกาจับงานจะดีมาก แต่เนื่องจากไม่มีก็เล่นวิธีนี้แหละ
เหยียบเอาไว้กันดิ้น ก่อนเจาะรูก็ทำการนำศูนย์ จากนั้นก็ค่อยๆ เจาะลงไป ไม่ง่ายเลย เพราะว่าผิวชิ้นงานมันโค้ง
ทำการเจาะชิ้นงานจนทะลุ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำคัญมากต้องใจเย็นๆ อย่าดันแรง เดี๋ยวดอกสว่านจะหัก
เมื่อเจาะชิ้นงานเสร็จแล้ว ลองทำการประกอบชิ้นงาน ดังรูป เพื่อเตรียมนำไปติดตั้งกลับคืนที่เดิม
ทำการประกอบ ชิ้นส่วนต่างๆ กลับคืนที่เดิม แล้วทำการทดสอบเลื่อนเกียร์ขึ้น และลง เมื่อตรวจสอบทุกอย่างครบถ้วนแล้ว ให้ลองทำการติดเครื่องยนต์ เหยียบเบรคค้างเอาไว้ แล้วลองเลื่อนเกียร์ขึ้น และลง เพื่อดูการตอบสนองหากพบสิ่งผิดปกติก็ควรรีบทำการแก้ไข ถ้าทุกอย่างทำงานตามปกติ เรียบร้อยดีก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
ถ้าในกรณีฉุกเฉินจริง ๆ อยู่ห่างไกลผู้คน เราก็มีวิธีบ้าน ๆ มาแนะนำ โดยใช้มือดันสลักเลื่อนเกียร์ออโต้ไปด้านหลังรถเพื่อให้เกียร์อยู่ในตำแหน่ง P จะได้สตาร์ทรถได้ จากนั้นนำสายโยงเกียร์ไปคล้องคืนที่เดิม อาจจะไม่มีลวดมัดก็ได้เพราะว่าไม่มีเครื่องมือ พอสตาร์ทเครื่องได้ ก็เลื่อนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง D จากนั้น ก็ขับรถกลับบ้านโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ขับเกียร์ D ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงบ้าน แค่นี้ก็ประหยัดค่ายก-ลากรถได้แล้ว พอถึงบ้านแล้วก็จอดรถดับเครื่องเลยจากนั้นค่อยว่ากันใหม่ว่าจะเอายังไงต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากhttp://www.mitsupatapeethong.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น